วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2552
กรณีศึกษา ไอทีกับงานซ่อมบำรุงที่โรงพยาบาลศิริราช
สรุปปัญหา
ก่อนนำไอทีมาใช้ เดิมทีหน่วยงานต่าง ๆ ที่ต้องการแจ้งเรื่องให้ไปซ่อมนั้นจะต้องส่งใบแจ้งซ่อมเข้ามา ทางหน่วยจึงจะออกไปซ่อม แล้วจึงลงบันทึกทั้งรายละเอียดปัญหา การแก้ไข ค่าใช้จ่าย ค่าแรง ซึ่งช่วงหลัง ๆ ก็เริ่มไม่ทัน จึงทำให้การทำงานช้าลง
1. เครือข่ายคอมพิวเตอร์
ตอบ มี ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็นการเชื่อมต่อข้อมูลเข้าด้วยกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์สะดวกต่อการแจ้งงานหรือเวลางานมีปัญหา
2. อินเตอร์เน็ต
ตอบ มี มีการแจ้งซ่อมผ่านระบบ Online ด้วยการทำงานแบบ Web-Based ผู้แจ้งสามารถแจ้งซ่อมด้วยคอมพิวเตอร์ผ่านทางระบบ Online ได้โดยตรง
3. พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ มี เพราะในการซ่อมบำรุงนั้นอาจมีการเปลี่ยนอุปกรณ์ทำให้ต้องมีการสั่งซื้ออุปกรณ์สามารถเลือกสินค้า คำนวนเงิน ตัดสินใจซื้อ หรือการชำระค่าสินค้าได้
4. ระบบสารสนเทศประมวลผลธุรกรรม
ตอบ มี รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ จากการปฏิบัติงานในการทำธุรกรรมต่าง ๆ อย่างการรวบรวมข้อมูลค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงต่าง ๆ
5. ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
ตอบ มี มีการประมวลผลและสรุปผลจากฐานข้อมูลเพื่อสะดวกต่อการจัดการตามความต้องการของผู้บริหาร
6. ระบบสนับสนุนในการตัดสินใจ
ตอบ มี มีระบบ KPI มาช่วยในการบริหารจัดการ ตัดสินใจ ประเมินผลในการทำงาน การมองข้อมูลทำให้รู้ว่าอะไรเสียหายบ่อย เพราะอะไร ต้องเปลี่ยนไหม
7. ระบบสารสนเทศของผู้บริหารระดับสูง
ตอบ มี เป็นระบบที่สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนสารสนเทศและการตัดสินใจสำหรับผู้บริหารระดับสูง โดยใช้หลักการและวิธีการเดียวกกับระบบสนับสนุนการตัดสินใจแล้วนำมาเปรียบเทียบ คำนวณ วิเคราะห์ คาดการณ์ และยังสามารถแสดงแนวโน้มหรือคาดคะเนเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้ันในอนาคต
8. ปัญญาประดิษฐ์ ระบบผู้เชี่ยวชาญและระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์
ตอบ ไม่มี แต่ควรมีเพราะเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป้าหมายคือ การพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ให้มีพฤติกรรมเลียนแบบมนุษย์ รวมทั้งเลียนแบบความเป็นอัจฉริยะของมนุษย์
9. ระบบสารสนเทศเชิงกลยุทธ์
ตอบ มี เป็นระบบสารสนเทศกับการเปลี่ยนแปลงในองค์การ มีการปรับเปลี่ยนระบบงานเดิมให้เป็นระบบงานอัตโนมัติ การเปลี่ยนแปลงระดับกระบวนการปฏิบัติงาน การออกแบบระบบงานใหม่ และการเปลี่ยแนวความคิด
10. ระบบการวางแผนทรัพยากรในงานอุตสาหกรรม
ตอบ ไม่มี แต่ควรมีเพราะเป็นระบบการวางแผนทรัพยากรองค์การ (Enterprise Resource Planning : ERP) เป็นระบบสารสนเทศที่บูรณาการงานหลักต่างๆ ขององค์การ เช่น การจัดซื้อจัดจ้าง การผลิต การขาย การบัญชี และการบริหารบุคคล ฯลฯ เข้าด้วยกันโดยเชื่อมโยงกันแบบเรียลไทม์ (Real Time) เพื่อตอบสนองความต้องการข้อมูลหรือสารสนเทศโดยภาพรวมและการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ
11. การพัฒนาระบบสารสนเทศในงานอุตสาหกรรม
ตอบ ไม่มี แต่ควรมีเพราะเป็นการวางแผนเพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศในงานต่าง ๆ ในอนาคต
12. ระบบสำนักงานอัตโนมัติ
ตอบ เป็นการนำเอาเครือข่ายมาเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สำนักงานต่าง ๆ เพื่อต้องการให้เป็นสำนักงานไร้กระดาษไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารระหว่างผู้ปฎิบัติงานโดยใช้ไปรษณีอิเล็กทรอนิกส์ การพิมพ์จัดเก็บเอกสารต่าง ๆ
การใช้ประโยชน์จาก RFID ในห่วงโซ่อุปทานของยา
1. ทำไมจึงต้องนำ RFID มาใช้งาน
ตอบ ระบบ Radio Frequency Identification [RFID] สามารถตรวจและบันทึกข้อมูลได้ลึกถึงระดับชิ้นของสินค้าสามารถตรวจสอบได้ทีละหลายชิ้นและสามารถตรวจสอบได้แม้ว่าจะมีของอย่างอื่นบังอยู่ จึงทำให้นำมาซึ่งผลดีต่าง ๆ ต่อธุรกิจยา (ในอุตสาหกรรมยาของโลก เวชภัณฑ์ยาระหว่างประเทศอาจมียาปลอมอยู่ถึง 7% ซึ่งทำให้ตลาดยาต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดจากยาล้นสต๊อก ยาที่เก็บจนหมดอายุ และยังมีค่าใช้จ่ายในการเรียกยาคืน)
2. ข้อดี-ข้อเสียของการนำ RFID มาใช้งาน
ตอบ ข้อดี - ง่ายต่อการตรวจสอบ
- สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ทีละหลายชิ้น
- สามารถอ่านข้อมูลผ่านทะลุวัตถุ
ข้อเสีย - ค่าใช้จ่ายสูง
- การตรวจสอบข้อมูลโดยสัญญาณวิทยุสู่เครื่องอ่านสัญญาณอยู่ในระยะทางจำกัด
3. RFID ควรนำไปใช้งานด้านใดอีก จงอธิบายและให้เหตุผลประกอบ
ตอบ RFID สามารถบันทึกข้อมูลรายละเอียดของตัวสินค้าที่ RFID ติดอยู่ ควรนำไปใช้งานด้านการขนส่งเพราะจะสะดวกต่อการตรวจสอบว่ารถคันนี้เป็นรถประเภทไหน ทะเบียนอะไร มาจากบริษัทไหน
วันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2552
วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2552
คำถามท้ายบทที่ 5
ตอบ DSS เป็นระบบที่เพิ่มความสามารถในการสนับสนุนการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเฉพาะกิจและรูปแบบของการตัดสินใจโดยมรเป้าหมายอยู่ที่การวางแผนในอนาคตและใช้ช่วงที่ไม่สม่ำเสมอหรือไม่ได้วางแผนเอาไว้
มีส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน คือ ส่วนจัดการข้อมูล ส่วนจัดการตัวแบบ และส่วนจัดการโต้ตอบ
2. ลักษณะและความสามารถของระบบสนับสนุนการตัดสินใจมีอะไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ ลักษณะแลความสามารถของระบบสนับสนุนการตัดสินใจตอบ สนับสนุนการตัดสินใจทั้งในสถานการณ์แบบกึ่งโครงสร้างและไม่มีโครงสร้างสนับสนุนการทำงานของผู้บริหารได้หลายระดับสนับสนุนการตัดสินใจแบบเฉพาะบุคคลและแบบกลุ่มสนับสนุนการตัดสินใจปัญหาที่เกี่ยวพัน หรือต่อเนื่องกันสนับสนุนทุกขั้นตอนของกระบวนการตัดสินใจสนับสนุนการตัดสินใจหลากหลายรูปแบบมีความยืดหยุ่นสูงใช้งานได้ง่ายเพิ่มประสิทธิภาพที่เข้าใจง่ายสามารถควบคลุมทุกขั้นตอนสามารถสร้างและปรับปรุงได้ด้วยตนเองมีแบบจำลองช่วยในการวิเคราะห์เข้าถึงข้อมูลได้หลายแหล่ง
3. ระบบสนับสนุนการตัดสินใจขั้นสูงมีความแตกต่างจากระบบผู้เชี่ยวชาญอย่างไร
ตอบ ระบบสนับสนุนการตัดสินใจมีลักษณะ ช่วยสนับสนุนการตัดสินใจของมนุษย์,ผู้ใช้ระบบทำการตัดสินใจเอง,ผู้ใช้ระบบป้อนข้อมูลถามระบบ, ขอบเขตของปัญหาจะกว้างและซับช้อน, ไม่มีความสามารถในการให้เหตุผลและมีข้อจำกดในการอธิบาย
ระบบผู้เชี่ยวชาญมีลักษณะ ทดแทนคำแนะนำของมนุษย์,ระบบทำการตัดสินใจ,ทิศทางระบบคำถามกบผู้ใช้,ลักษณะขอบเขตแคบและเฉพาะเจาะจง
4. ระบบสนับสนุนการตัดสินใจกลุ่มมีประโยชน์ และแตกต่างจากระบบสนับสนุนส่วนบุคคลอย่างไร
ตอบ เป็นระบบที่สนับสนุนการตัดสินใจประเภทหนึ่ง โดยอาศัย GDSS เป็นระบบแบบโต้ตอบที่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อสนุบสนุนการตัดสินใจร่วมกันของกลุ่มบุคคล สมาชิกไม่จำเป็นต้องอยู่ที่เดียวกัน
5.ระบบสนับสนุนการตัดสินใจนำมาใช้ในธุรกิจต่างๆ ด้านล่างนี้ได้อย่างไร จงอธิบาย และยกตัวอย่างประกอบ
5.1 ธุรกิจโรงเรียน ในระดับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เชิงยุทธวิธี และเชิงปฏิบัติการ
ตอบ โปรแกรมเครื่องมือในการออกเสียง
5.2 ธุรกิจโรงพยาบาล ในระดับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เชิงยุทธวิธี และเชิงปฏิบัติการ
ตอบ โปรแกรมการรักษาโรคของแพทย์
5.3 ธุรกิจผลิตรถยนต์ ในระดับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เชิงยุทธวิธี และเชิงปฏิบัติการ
ตอบ โปรแกรมการประกอบชิ้นส่วน
5.4 ธุรกิจขายรถยนต์ ในระดับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เชิงยุทธวิธี และเชิงปฏิบัติการ
ตอบ โปรแกรมตรวจสอบราคารถยนต์
5.5 ธุรกิจโรงแรม ในระดับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เชิงยุทธวิธี และเชิงปฏิบัติการ
ตอบ โปรแกรมเช็คข้อมูลการท่องเที่ยว
5.6 ธุรกิจผลิตน้ำแข็ง ในระดับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เชิงยุทธวิธี และเชิงปฏิบัติการ
ตอบ โปรแกรมการสั่งเปิดปิดระบบไฟฟ้า
5.7 ธุรกิจผลิตน้ำมัน ในระดับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เชิงยุทธวิธี และเชิงปฏิบัติการ
ตอบ โปรแกรมสั่งจ่ายน้ำมันจากหัวฉีด
5.8 ธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติก ในระดับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เชิงยุทธวิธี และเชิงปฏิบัติการ
ตอบ โปรแกรมการสั่งซื้อวัตถุดิบ
วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2552
คำถามท้ายบทที่ 3
1. Instant Messaging (IM) คืออะไร สามารถสนับสนุนกระบวนการดำเนินธุรกิจได้อย่างไรบ้างและช่วยลดค่าใช้จ่ายโทรศัพท์ได้อย่างไร
ตอบ คือ โปรแกรมที่ใช้ในการสื่อสารและส่งข้อความในระหว่างเพื่อนหรือกลุ่มคนที่อยูในอินเทอร์เน็ต โดยรูปแบบจะคล้ายกับ E-mail โดยรูปแบบการส่งข้อมูลจะประกอบไปด้วยตัวหนังสือในการส่งแต่ละครั้ง แต่จะต่างกับ E-mail ตรงที่ คุณไม่ต้องนั่งรอเป็นชั่วโมงหรือวันๆ เพื่อรอการตอบกลับจากเพื่อนของคุณ เพราะข้อความที่คุณส่งไป จะส่งตรงไปหาเพื่อนของคุณ “ทันที” เหมือนกับการพูดคุยปกติ
สามารถสนับสนุนกระบวนการดำเนินธุรกิจ ทางด้านการสั่งซื้อสินค้าโดยการสั่งสินค้าผ่านระบบ Instant Messaging (IM) จะช่วยลดค่าใช้จ่ายแทนการสั่งซื้อทางโทรศัพท์
2. E-Commerce แตกต่างจาก E-Bussiness อย่างไร
ตอบ E-Commerce เป็นส่วนหนึ่งของ E-Bussiness คือ E-Bussiness จะมีการดำเนินธุรกรรมทุกขั้นตอนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทั้งในส่วนหน้าร้าน (Front Office) และหลังร้าน (Back Office) ในขณะที่ E-Commerce จะทำการซื้อขายสินค้าหรือบริการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น
3. E-Commerce กับ M-Commerce ต่างกันหรือไม่ จงอธิบาย
ตอบ (E-Commerce) ซึ่งเป็นแค่กระบวนการในการซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการต่างๆ ผ่านระบบเครือข่าย แต่ M-Commerce มาจาก Mobile-Commerce ก็คือ การทำธุรกรรรมผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีข้อได้เปรียบมากกว่า E-Commerce หลายอย่าง เช่น
1. Mobility ตรงนี้คงยอมรับกันได้ว่า มีมากกว่า E-Commerce เพราะเราสามารถนำโทรศัพท์มือถือไปยังที่ต่างๆ ได้สะดวกกว่าการต้องพกพา เครื่องคอมพิวเตอร์ แม้ว่าจะเป็น Notebook ที่นับวันจะมีขนาดเล็ก บาง น้ำหนักเบามากขึ้นแล้วก็ตาม
2. Reachability สามารถเข้าถึงได้ง่าย เรียกได้ว่า สมัยนี้ใครๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือกันได้ไม่ยากนัก
3. Ubiquity ปัจจุบันเราใช้งานโทรศัพท์มือถือกันแพร่หลายมาก และใช้งานกันกว้างขวาง ไม่ได้ใช้เฉพาะในกลุ่มนักธุรกิจเหมือนในอดีต แต่ไปถึงแม่บ้าน นักศึกษา วัยรุ่น ฯลฯ
4. Convenience ด้วยขนาดที่พกพาได้ง่าย ทำให้เกิดความสะดวกในการนำไปใช้ และใช้งานได้ไม่ยาก เพียงกดปุ่มไม่กี่ปุ่ม ถ้าเทียบกับการใช้คอมพิวเตอร์ แล้วฟังก์ชันที่ทำงานบนมือถือจะสนองตอบการใช้งานที่ง่าย และใช้เวลาน้อยกว่า
4.จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่างการทำธุรกิจแบบธุรกิจกับธุรกิจ (B2B), ธุรกิจกับลูกค้า (B2C), ธุรกิจกับภาครัฐ (B2G) และลูกค้ากับลูกค้า (C2C)
ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) เป็นการทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ระหว่างที่มุ้งเน้นให้บริการกับลูกค้าที่เป็นองค์การธุรกิจด้วยกัน เช่น ผู้ผลิต-ผู้ผลิต ผู้ผลิต-ผู้ส่งออก ผู้ผลิต-ผู้นำเข้า และผู้ผลิต-ผู้ค้าส่ง
ธุรกิจกับลูกค้า (B2C) เป็นการทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ระหว่างผู้ขายที่เป็นองค์การธุรกิจกับผู้ซื้อหรือลูกค้าแต่ละคนอาจเป็นการค้าปลีกแบบล็อตใหญ่หรือเหมาโหล หรือแบบขายปลีกที่มีมูลค่าการซื้อขายสินค้าจำนวนไม่สูง
ธุรกิจกับภาครัฐ (B2G) เป็นการทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ระหว่างเอกชนกับภาครัฐ ได้แก่การประมูลออนไลน์ (E-Auction) และการจัดซื้อจัดจ้าง (E-Procurement)
ลูกค้ากับลูกค้า (C2C) เป็นการทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ระหว่างผู้บริโภคด้วยกัน ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนและซื้อ-ขายสินค้าอาจทำผ่าน Website
5. จงยกตัวอย่างปัจจัยที่ทำให้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบความสำเร็จและล้มเหลวมาอย่างละ 5 ข้อ
ตอบ 1. การส่งงานออกแบบให้แก่ลูกค้าโดยผ่าน CD-ROM
2. การสั่งซื้อหนังสือจากเว็บไซด์
3. การส่งข้อมูลการโอนเงินระหว่างธนาคาร (Electronic Fund Transfers : EFT)
4. การจองตั๋วชมภาพยนตร์ผ่านโทรศัพท์มือถือ
5. การส่งเอกสารผ่าน EDI (Electronic Data Interchange) ของกรมศุลกากร
6. Internet ส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างผู้ผลิตหรือซัพพลายเออร์กับลูกค้าอย่างไรบ้าง
ตอบ เป็นชุมชนอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่มีทั้ง ผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้ผลิตหรือซัพพลายเออร์ เข้าออกแล้วค้นหาสินค้าและบริการตลอดเวลา จึงเป็นแหล่งที่เอื้ออำนวยต่อการประกอบธุรกิจ Internet จึงเป็นเหมือนจุดศูนย์การในการทำธุรกิจของโลกปัจจุบันมาก
7. Internet มีประโยชน์ต่อการให้บริการลูกค้าอย่างไรบ้าง
ตอบ มีหน้าที่ให้บริการต่าง ๆ กับลูกค้าตั้งแต่การค้นข้อมูลของ สินค้าและบริการ การสั่งซื้อ หรือแม้แต่การชำระเงินก็สามารถทำได้สะดวก สินค้าและบริการบ้างอย่างก็จะมีการให้บริการหลังการขายผ่านทาง Internet ด้วย
8. ในยุคความเจริญของ internet ความเร็วสูง การจำหน่าย softeware ในรูปแบบของ CD-Rom น่าจะลดน้อยลงและได้รับความนิยมน้อยกว่าการจำหน่ายโดยวิธีการ download ผ่านทาง internet แต่ในปัจจุบันกลับไม่เป็นเช่นนั้น การจำหน่าย software ในรูปของ CD-Rom ยังคงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ท่านคิดว่าเป็นเพราะเหตุผลใด
ตอบ เพราะการติดตั้ง software โดยผ่าน CD-ROM น่าจะช่วยลดปัญหาไวรัสเข้าสู่ระบบ Computer มากกว่าการ Download ผ่านทาง Internet
9.จงยกตัวอย่างของธุรกิจที่ทำการค้าแบบ E-Commerce มา 1 ธุรกิจ
ตอบ การจำหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่นผ่านทาง Internet
วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2552
วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2552
วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
กรณีศึกษา
1. จากการประยุกต์ใช้เครือข่ายไร้สายของบริษัทเฮิร์ตซ์ที่ได้กล่าวข้างต้น แอปพลิเคชันที่ประยุกต์เพื่อใช้งานธุรกิจภายในองค์การมีอะไรบ้าง และมีแอปพลิเคชันใดที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
ตอบ : 1. การให้บริการเช่ารถยนต์ด้วยความรวดเร็ว
2. การคืนรถยนต์อัตโนมัติ
3. บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
4. การตรวจสอบเส้นทางเดิน
5. บริการเสริมสำหรับลูกค้า
6. การตรวจสอบตำแหน่ง
แอปพลิเคชันที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางคือ บริการเสริมต่างๆ สำหรับลูกค้าไม่ว่าจะเป็นการให้บริการดาว์นโหลดข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน แผนที่แหล่งช้อปปิ้ง ตลอดจนร้านค้า โรงแรม และแหล่งบันเทิงต่างๆ ผ่านทางเครื่องพีดีเอ
2. ประโยชน์อะไรบ้างที่เฮิร์ตซ์ได้รับจากการตรวจสอบตำแหน่งของรถเช่า และในฐานะที่ท่านเป็นผู้เช่ารถ ท่านมีความเห็นอย่างไรบ้างเกี่ยวกับการดำเนินการในลักษณะนี้
ตอบ : ประโยชน์ที่ได้รับ คือ
- สามารถรับรู้ว่ารถของบริษัทอยู่ตำแหน่งใด
- ป้องกันการขโมย และสูญหาย
- เป็นการสร้างความปลอดภัย และความเชื่อมั่นให้แก่บริษัทของตนเอง
- ทำให้ลูกค้ารู้สึกมีความปลอดภัย หากบริษัทมีการสอดส่องดูแลความเคลื่อนไหวในฐานะเป็นลูกค้า
- ไม่มีความเป็นส่วนตัว
- แสดงท่าทีไม่ไว้ใจลูกค้าว่าอาจจะขโมยรถ
กรณีศึกษาที่ 2 : การใช้ RFID ในห่วงโซ่อุปทานของยา
1. ท่านคิดว่า RIFD มีข้อได้เปรียบกว่าบาร์โค้ดอย่างไรบ้าง
ตอบ : สามารถตรวจสอบยาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายกว่าบาร์โค้ดเนื่องจากการใช้ RIFD นั้นสามารถระบุลักษณะของวัตถุด้วยคลื่นความถี่วิทยุโดยการสแกนผ่านรูปทรงของวัตถุได้เลย แต่ในส่วนของบาร์โค้ดนั้นต้องนำที่สแกนไปสแกนให้ตรงกับตำแหน่งที่ติดตั้งฉลากบาร์โค้ดจึงจะสามารถสแกนข้อมูลของยาได้ดังนั้นการใช้บาร์โค้ดจึงทำให้เป็นการเสียเวลามากกว่า
2. จงยกตัวอย่างการนำเทคโนโลยี RFID ไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจต่าง ๆ มา 3 ตัวอย่าง
ตอบ : 1. ร้านรองเท้า
2. ร้านเครื่องเขียน
3. ห้างสรรพสินค้า
3. ท่านคิดว่าข้อจำกัดของการนำ RFID ไปใช้ในงานธุรกิจมีอะไรบ้าง
ตอบ : การติดตั้งระบบค่อนข้างมีราคาแพงอาจไม่คุ้มทุนนะถ้าหากว่าธุรกิจมีขนาดไม่ใหญ่ และ การดูแลระบบอาจเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความชำนาญเป็นพิเศษ ซึ่งอาจจะต้องจ้างผู้ตรวจสอบระบบเพิ่มต่างหากทำให้เป็นการเพิ่มภาระต้นทุนให้กับธุรกิจ
สมาชิกกลุ่ม My Gang
1. นส.ศศิวรรณ ทองเลิศลักษณ์ เลขที่ 34
2. นส.อำพร ชมสุข เลขที่ 49
3. นายฐิติ จักรหา เลขที่ 53
สาขา เทคโนโลยีการจัดการอุตสาหกรรม
วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
กรณีศึกษา : การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารงานร้านไอศครีม Iberry
ตอบ การสั่งซื้อวัตถุดิบจาก Suppiler และการประชาสัมพันธ์ร้านผ่านทางระบบ Internet
2. ท่านคิดว่าในอนาคตร้านไอศครีม Iberry สามารถนำไอทีเข้ามาช่วยงานด้านใดอีกได้บ้าง
ตอบ การนำระบบ SAP เข้ามาช่วยในด้านการบัญชี การจัดเก็บและการสั่งซื้อสินค้าเข้าร้าน เนื่องจากร้าน Iberry มีสาขาหลายสาขา จึงทำให้ง่ายต่อการเช็คจำนวนสินค้าของแต่ละสาขา และสามารถป้องกันการทุจริตได้อีกด้วย
3. จากแนวคิดการนำไอทีมาใช้แก้ปัญหาของผู้บริหารร้านไอศครีม Iberry นั้น ท่านคิดว่าสามารถนำแนวคิดนี้ไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจใดได้บ้าง จงอธิบายและยกตัวอย่างประกอบ
ตอบ ใช้ได้กับทุกธุรกิจที่มีหลายสาขาหรือมีสินค้าหลายชนิด ที่มียอดขายจำนวนมาก เช่น ร้านขายของส่ง เพราะชนิดของสินค้ามีการรับเข้าและจ่ายออกเป็นจำนวนมาก ในการนำซอฟต์แวร์ Kiosque เข้ามาช่วยเพื่อจัดเก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวของสินค้า ทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบ และการติดตั้งกล้อง CCTV นั้นจะช่วยลดปัญหาสินค้าสูญหายและการทุจริตได้ เนื่องจากปริมาณคนเข้าออกในร้านนั้นมีจำนวนมาก
สมาชิกกลุ่ม My Gang
1. นส.ศศิวรรณ ทองเลิศลักษณ์ เลขที่ 34
2. นส.อำพร ชมสุข เลขที่ 49
3. นายฐิติ จักรหา เลขที่ 53
สาขา เทคโนโลยีการจัดการอุตสาหกรรม
วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2552
การพัฒนาระบบสารสนเทศในงานอุตสาหกรรม
Weblog (อ่านว่า เวบ-บล็อก )หรือ เรียกสั้นๆว่า Blog (อ่านว่า บล็อก) คือ Website หนึ่งที่บันทึกเรื่องราวต่างๆ ที่ผู้เขียนต้องการสื่อสารในเรื่องราวต่างๆที่ต้องการ โดยสามารถนำเสนอได้ทั้งในรูปแบบของตัวอักษร รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว และเสียง และสามารถ update และเพิ่มเติมเนื้อหาเดิมได้ตลอด หรือจะเขียนเป็นลักษณะไดอะรี่ส่วนตัวก็ยังได้นะคะ ซึ่งBlog มีความแตกต่างจาก Webboard คือ Blog มีความเป็นเนื้อหาที่กว้างขวาง มีเนื้อหาที่น่าสนใจ หลากหลาย และส่วนหนึ่งเป็นเนื้อหาที่มีความน่าเชื่อถือ ให้ความรู้ได้ต่อเนื่อง และเราสามารถเป็นผู้เขียนและเป็นเจ้าของเรื่องราวที่จะนำเสนอเองได้ โดยบางwebsite เปิดโอกาสให้เราได้สมัครสมาชิกเป็นเจ้าของ Blog ของเราเองได้ ด้วย สำหรับประโยชน์ของ Blog แล้วพอจะสรุปได้ดังนี้ค่ะ
- สามารถนำไปใช้ในงานด้านธุรกิจ การตลาด การประชาสัมพันธ์ การโฆษณาต่างๆ ได้
- ทำให้ได้รับความรู้ใหม่ๆ ถูกต้องและชัดเจนยิ่งกว่าเดิม ซึ่งได้จากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของผู้อื่น
- ทำให้ทันโลกทันเหตุการณ์อยู่เสมอ
- เราสามารถเป็นเจ้าของ Blog เองได้
- เป็นเวทีใช้แสดงความคิดเห็นของเรา ทำให้คนที่ชอบเรื่องเดียวกับเรา เข้ามาอ่าน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ ถ้าเราเขียนดี มีคนติดเข้ามาอ่านอยู่เรื่อยๆ
- เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับการจัดการความรู้(Knowledge Management) ได้
สมาชิกกลุ่ม My Gang
1. นส.ศศิวรรณ ทองเลิศลักษณ์ เลขที่ 34
2. นส.อำพร ชมสุข เลขที่ 49
3. นายฐิติ จักรหา เลขที่ 53
สาขา เทคโนโลยีการจัดการอุตสาหกรรม